ความลับที่ผู้ประกอบอาชีพค้าขายอิสระไม่เคยรู้ตอนที่ 1
ทั้งๆ ที่รายได้ดีมีตังค์ แต่ทำไมถึงกู้ซื้อบ้านไม่ค่อยได้? แปลกดีทั้งๆที่รายได้ดีกว่า รวยกว่ามนุษย์เงินเดือนด้วยซ้ำ แต่ทำไมธนาคารไม่ให้กู้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นคำถามยอดฮิตที่มีคนถามเข้ามามากมายทั้งไลน์ ทั้งอินบ้อกซ์ เป็นคำถามที่ได้รวบรวมไว้ได้เยอะที่สุดในแต่ละปีก็ว่าได้ “ค้าขายกู้ได้มั้ย อาชีพอิสระกู้ได้มั้ย ทำไมถึงกู้ไม่ค่อยได้”
วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจและหาทางแก้ไขกัน หลายๆครั้งที่ได้รับคำถามจากลูกค้าที่ทำอาชีพค้าขายอิสระ ที่ไม่มั่นใจในอาชีพของตัวเองว่า "หากต้องการซื้อบ้านมือสองสักหลัง และต้องการกู้สินเชื่อจากธนาคารแล้ว จะได้รับการอนุมัติหรือไม่ แถมบางคนเคยขอแล้วถูกปฎิเสธมาแล้วจากธนาคารด้วยซ้ำด้วยเหตุผลว่า อาชีพเหล่านี้เป็นอาชีพที่ไม่มีรายได้ประจำที่แน่นอน ไม่มีความมั่นคงเหมือนกับทำงานในบริษัท" แล้วแบบนี้พ่อค้าแม่ค้าในตลาด คนขายของอาชีพอิสระ ชาตินี้ไม่มีวันมีบ้านกับเค้าสักหลังเลยหรือไง เมื่อถึงเวลาเจอบ้านมือสองที่ถูกใจกับเค้าสักหลังจะทำยังไง ถึงจะได้เป็นเจ้าของบ้านในฝันกับเขาบ้าง
ความลับมันอยู่ตรงนี้ครับว่า ที่จริงแล้วการที่ธนาคารจะอนุมัติเงินกู้บ้านให้หรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอาชีพของลูกค้า แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนรายได้และความมั่นคงของที่มาของรายได้นั้นต่างหาก
ซึ่งการที่คนเข้าใจกันว่าคนทำงานประจำหรือมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานในบริษัทมีโอกาสได้รับอนุมัติเงินกู้มากกว่าคนที่มีอาชีพอิสระ นั่นก็เป็นเพราะว่างานและรายได้ของคนเหล่านั้นมีความมั่นคงกว่า
- เพราะมีหลักฐานที่เป็นสลิปเงินเดือน
- มีหนังสือรับรองการทำงาน
- เงินเดือนและรายได้อื่นๆ จากบริษัท ที่แสดงให้ธนาคารเห็นได้ถึงความสม่ำเสมอและความมั่นคงของรายได้ที่ได้รับในแต่ละเดือน
แล้วคนค้าขายอย่างเราๆ ที่มีรายได้สม่ำเสมอเหมือนกัน แถมเยอะกว่าด้วยซ้ำ เพียงแต่เราไม่มีบริษัทที่จะออกเอกสารรับรองให้แค่นี้น่ะหรือ เพียงกระดาษใบเดียวนี่หรือ ที่ธนาคารฯจะมองว่ามั่นคง คำตอบคือไม่จริงครับ เพราะสำหรับคนที่เป็นฟรีแลนซ์หรือคนที่ทำงานในอาชีพอิสระ ไม่ว่าจะเป็น มัคคุเทศก์ คนรับแปลงาน ครูสอนพิเศษตามบ้าน ไปจนถึงคนขายก๋วยเตี๋ยวหรือพ่อค้าแม่ค้าในตลาดก็ตาม หากเราสามารถทำให้ธนาคารเชื่อในรายได้และความมั่นคงของรายได้และฐานะทางการเงินของเราได้แล้ว เราก็มีสิทธิ์ได้รับอนุมัติเงินกู้เช่นเดียวกัน ฐานะที่คร่ำหวอดในวงการมานานพบว่าอันที่จริงมันไม่มีกฎตายตัวอะไรทั้งนั้นแหละครับ เอกสารทั้งหมดที่ธนาคารเรียกดูเป็นปึกๆ มันใช้ประกอบการพิจารณาให้ธนาคารมั่นใจว่าท่านได้เงินกู้ไปแล้ว จะสามารถผ่อนชำระคืนได้แน่นอน ไม่เกิดเป็น NPL ซึ่งเป็นภาระที่ธนาคารกลัวนักหนา
ทราบอย่างนี้แล้วทางที่จะแก้ปัญหานี้ให้เรามีโอกาสกู้ได้เหมือนทำงานประจำคือทำยังไงหล่ะให้เค้ามั่นใจว่า เราในฐานะผู้ประกอบการค้าขายอิสระก็มีปัญญาผ่อนให้ครบถ้วนได้เหมือนมนุษย์เงินเดือน แถมวันดีคืนดีจะโปะคืนหนี้ได้เร็วกว่าด้วยซ้ำ คำตอบก็คือเราต้องทำการบ้านในการเตรียมเอกสารให้มากกว่าพนักงานเงินเดือนไงครับ โดยเราต้องเป็นผู้เตรียมเอกสารเหล่านั้นและให้ข้อมูลกับธนาคารให้มากที่สุดด้วยตัวเอง ซึ่งหลักฐานเหล่านั้นจะมากและยุ่งยากกว่ามนุษย์เงินเดือนสักเล็กน้อย แต่ก็ไม่เกินความพยายามครับ บวกกับเทคนิคที่สำคัญที่ไม่เคยมีที่ไหนเปิดเผยดังนี้ครับ
1 ต้องให้เงินรายได้ทั้งหมดไม่ว่าจะมาจากแหล่งใด "ผ่านเข้าบัญชีธนาคาร"
เพื่อให้ตัวเลขในบัญชีมีเงินเข้าเป็นประจำทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ให้ชินถือเป็นการสร้างหลักฐานสำหรับการขอกู้ในอนาคตอันใกล้ด้วย ปกติธนาคารจะขอการเดินรายการบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน แต่หากเราทำได้นานกว่านั้นเช่น 1-2 ปีต่อเนื่อง อันนี้ถือว่ามีแต้มต่ออย่างมาก จะยิ่งสร้างความมั่นใจให้ธนาคารปล่อยกู้ได้มากขึ้น และข้อสำคัญไม่ใช่ว่าเข้าเท่าไหร่ก็ถอนออกหมดเท่านั้น ไม่เหลือติดบัญชีเลยสักกะบาทนะครับ แบบนี้ธนาคารจะมองออกว่าคุณแต่งบัญชี โดยมีเงินอยู่ก้อนเดียวนั่นแหละ ปั่นเข้าๆออกๆหมุนไปหมุนมาแบบนี้ถือว่าผิดกติกานะครับ
2 เอกสารหลักฐานที่มาของรายได้ที่เราเอาไปฝากเข้าบัญชีธนาคาร (ข้อนี้สำคัญไม่แพ้ข้อ 1) กันเลยทีเดียว
- สำเนาใบเสร็จ
- สำเนาบิลเงินสด
- หลักฐานการส่งสินค้าให้ลูกค้า
เพราะธนาคารอยากรู้ว่าที่มาของเงินเหล่านั้น มาจากไหน ฟอกเงินหรือป่าว รายได้จากแหล่งที่ผิดกฎหมายหรือป่าว และถ้ารายได้นั้นถูกกฎหมาย รายได้นี้จะมีมาต่อเนื่องอย่างมั่นคงหรือไม่
3 เมื่อเอาเงินเข้าแล้ว เมื่อเราเบิกใช้จ่ายในแต่ละเดือน ต้องมีเงินเหลือติดบัญชีสะสมในแต่ละเดือนไว้บ้าง
อันนี้สำคัญไม่แพ้กันนะครับ ถ้าเรามีเงินคงเหลือสะสมบ้างเล็กๆน้อยๆต่อเนื่องมาตลอด ธนาคารจะมองว่าเราเป็นคนมีวินัยในการออม ซึ่งคนมีวินัยในการออมก็น่าจะมีวินัยในการผ่อนชำระเงินกู้เช่นกัน
4 รูปถ่ายร้านค้าหรือแผงค้าของเรา
ภาพถ่าย Stock สินค้า ภาพถ่ายกิจกรรมต่างๆที่ท่านทำมาตลอด เช่น ส่งสินค้า ติดตั้งงานให้ลูกค้า ลูกค้ามาใช้บริการร้านของท่าน มาใช้ยื่นประกอบการขอสินเชื่อด้วย ดังคำกล่าวที่ว่า” ล้านคำพูดไม่สู้หนึ่งภาพถ่าย” ซึ่งภาพถ่ายนี่เป็นสิ่งจำเป็นที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ ลองนึกกลับกันถ้าเราเป็นคนปล่อยกู้แต่เราไม่เคยเห็นว่าธุรกิจของผู้กู้ว่าสภาพหน้าตาเป็นยังไง เพราะอาชีพค้าขายอิสระมันมีมากมายหลากหลาย อธิบายกันด้วยคำพูดไม่สามารถนึกสภาพออกจริงๆ แล้วแบบนี้เราจะไว้ใจปล่อยให้กู้ง่ายๆไหม นอกจากนี้เคยรู้ไหมครับว่าหลายๆครั้งธนาคารจะต้องส่งเจ้าหน้าที่สินเชื่อไปตรวจดูว่ากิจการของคุณมีตัวตนจริงหรือไม่ ลองนึกดูว่าแต่ละวันมีคนมากู้ที่ธนาคารมากมายขนาดไหนเมื่อเทียบกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารที่มีอยู่อย่างจำกัด แล้วกว่าธนาคารจะส่งคนมาตรวจสอบกิจการของคุณ จะกินเวลานานขนาดไหนก็ลองนึกดู ดังนั้นการช่วยเตรียมเอกสาร ประกอบ เตรียมตัวอย่างดีก็จะช่วยให้ขั้นตอนการอนุมัติรวดเร็วขึ้นคุณว่าจริงมั้ยครับ
5 เอกสารรายจ่ายอื่นๆ
เช่น เอกสารต้นทุนซื้อสินค้า สัญญาเช่าร้านหรือแผงค้าในตลาด(ถ้ามี) ก็ต้องทำสำเนาเพื่อยื่นธนาคารด้วยเช่นกัน ยิ่งหากธนาคารทราบว่าเราทำอาชีพนี้มานานเท่าไหร่ก็จะยิ่งเป็นผลดี เพราะเป็นความมั่นคงในอาชีพแบบของเรา ถึงเราจะไม่ใช่พนักงานกินเงินเดือนประจำก็จริง แต่เราก็เช่าที่ตรงนี้ทำกิจการนานแล้ว รายได้ก็ดีคิดว่าคงยังไม่เลิกทำง่ายๆได้ข้อมูลแบบนี้ก็ยิ่งน่าเชื่อถือเข้าไปใหญ่