Loading...

Loading
รับฝากขายบ้าน : บ้านมือสอง

10 เรื่องต้องรู้ เครดิตบูโร ก่อนยื่นกู้หรือสมัครบัตรเครดิต

20 มิถุนายน 2560

คนที่คิดจะกู้เงินไม่ว่าจะ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือขอ สินเชื่อเงินกู้ เพื่อการทำธุรกิจ รวมถึงสมัคร บัตรเคดิต สิ่งสำคัญที่สถาบันการเงินจะตรวจดูคือ เครดิตบูโร ซึ่งเก็บรวบวมประวัติการชำระสินเชื่อย้อนหลังของเรา ไม่เกิน 24 เดือน ดังนั้นหากใครที่มีประวัติการชำระเงินล่าช้า หรือค้างชำระ ประวัติเหล่านั้นก็จะแสดงให้เห็น  

 

Q: เครดิตบูโร คือ อะไร

เครดิตบูโร หรือ บริษัทข้อมูลเครดิต (Credit Bureau) คือ บริษัทที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเครดิตจากสถาบันการเงินหลายๆแห่งที่เป็นสมาชิก นำมารวบรวมประมวลผลเป็นข้อมูลเครดิตในภาพรวมสำหรับลูกค้าเจ้าของข้อมูลแต่ละราย และเมื่อสถาบันการเงินหรือลูกค้าเจ้าของข้อมูลต้องการเรียกดูรายงานข้อมูลเครดิตภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนด บริษัทข้อมูลเครดิตจึงจะเปิดเผยข้อมูลเครดิตนั้นในรูปของรายงานข้อมูลเครดิต 

 

Q: กรณีที่ขอสินเชื่อ หรือมีบัตรเครดิตไว้กับธนาคารหลายแห่ง ข้อมูลจากทุกธนาคารจะถูกส่งมาที่บริษัทข้อมูลเครดิตใช่หรือไม่

เฉพาะข้อมูลการขอและการชำระสินเชื่อจากธนาคารที่เป็นสมาชิกกับบริษัทเท่านั้นที่จะรายงานข้อมูลเข้ามา ซึ่งธนาคารเกือบทุกแห่งในประเทศไทยเป็นสมาชิกของบริษัท และเราจะแสดงข้อมูลจากที่ทุกๆ สถาบันการเงินสมาชิกส่งเข้ามา

 

Q: รายงานสถาบันการเงินทุกแห่งเป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตหรือไม่

สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตเป็นผู้เรียกดูรายงานข้อมูลเครดิตเกี่ยวกับตัวลูกค้าที่ขอสินเชื่อ ทั้งนี้ในการสมัครขอสินเชื่อสถาบันการเงินจะให้ท่านทำหนังสือให้ความยินยอมให้บริษัทข้อมูลเครดิตเปิดเผยข้อมูล เพื่อประกอบการพิจารณาการให้สินเชื่อตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ 

 

Q: ทำไมข้าพเจ้าจึงถูกปฏิเสธคำขอสินเชื่อ

เครดิตบูโรเปิดเผยประวัติข้อมูลและการชำระสินเชื่อของท่านที่ปรากฏในรายงานข้อมูลเครดิต แต่ไม่ได้ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อแต่อย่างใด สถาบันการเงินแต่ละแห่งมีนโยบายการให้สินเชื่อเป็นของตนเองซึ่งอาจแตกต่างกันไปในระหว่างสถาบันการเงิน สถาบันการเงินไม่ได้รายงานให้บริษัทข้อมูลเครดิตทราบว่าเหตุใดจึงอนุมัติให้สินเชื่อหรือเหตุใดจึงปฏิเสธการให้สินเชื่อแก่ท่าน

 

Q: อยากทราบว่า ค้างชำระเป็นเวลานานเพียงไร ชื่อจึงถูกจัดเข้าไปอยู่ในแบล็กลิสของบริษัทข้อมูลเครดิต

ก่อนอื่นคงต้องขอทำความเข้าใจกับคุณก่อนว่า บริษัทข้อมูลเครดิตไม่ได้เป็นศูนย์กลางในการจัดหรือเก็บข้อมูลแบล็คลิตส์แต่อย่างใด บริษัทฯ มีหน้าที่เพียงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการขอและการชำระสินเชื่อของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการชำระดีหรือไม่ดี จะบันทึกไว้ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงค่ะ 

 

Q: ข้อมูลในเครดิตบูโรจะเก็บย้อนหลังกี่ปี และจะอัพเดททุก ๆ กี่เดือน

ข้อมูลของบุคคลธรรมดาและข้อมูลของนิติบุคคล กฎหมายกำหนดไว้ว่าให้เก็บไว้ในระบบประมวลผลได้ไม่เกิน 3 ปี และ 5 ปีตามลำดับ นับแต่วันที่สมาชิกรายงานข้อมูลมายังบริษัท โดยที่จะมีข้อมูลใหม่เข้าไปแทนที่ข้อมูลเก่าเรื่อยไปน่ะค่ะ ส่วนการอัพเดดข้อมูลนั้น สถาบันการเงินจะรายงานประวัติการชำระของคุณเข้ามาที่บริษัทฯ ทุกๆ สิ้นเดือนค่ะ 

 

Q: ชำระหนี้ที่เคยค้างค่าบัตรเครดิตไว้ไปหมดแล้ว แต่ทำไมในรายงานข้อมุลเครดิต จึงยังมีชื่อปรากฏอยู่ว่าค้างชำระ

รายงานข้อมูลเครดิตเปรียบเหมือนรายงานผลการศึกษา คือจะรายงานตามผลจริงที่เกิดขึ้น และไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขประวัติเดิมได้ หากคุณเคยค้างชำระไว้ ข้อมูลก็จะขึ้น ณ เดือนที่คุณค้างชำระว่า "ค้างชำระ" ในกรณีที่คุณได้ชำระหนี้ไปแล้ว จะมีข้อมูลใหม่ขึ้นมาว่า คุณชำระเรียบร้อยแล้วหรือปิดบัญชีแล้ว โดยที่ข้อมูลการค้างชำระเดิมไม่ได้ถูกลบออกไป จนกว่าข้อมูลนั้นจะถูกลบออกไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด คือ 3 ปีหรือ 36 เดือน

 

Q: หากไม่จ่ายค่าธรรมเนียมการใช้บัตรเครดิต ข้อมูลจะถูกนำส่งบริษัทข้อมูลเครดิตหรือไม่

ข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งเข้ามาที่บริษัทฯ ข้อมูลเครดิตด้วยค่ะ เพราะข้อมูลในรายงานข้อมูลเครดิตจะไม่ได้แยกว่าเป็นหนี้จากการใช้บัตรเครดิต หรือหนี้จากค่าธรรมเนียม แต่ถ้ามีการขอยกเว้นในภายหลัง ก็ต้องแจ้งเรื่องให้บริษัทหรือสถาบันผู้ออกบัตรแก้ไขข้อมูลแล้วส่งมาที่บริษัทข้อมูลเครดิตอีกครั้ง

 

Q: ขอตรวจข้อมูลเครดิตได้ที่ไหน

สถานที่ตรวจสอบข้อมูลเครดิต ศูนย์บริการตรวจสอบบูโร 3 แห่ง ดังนี้

1. ส่วนบริหารเจ้าของข้อมูล บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด

อาคาร 2 ชั้น 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (สำนักงานใหญ่)

เลขที่ 63 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320

โทรศัพท์ : (66) 02-643-1250

โทรสาร : (66) 02-612-5895

เวลาทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00 น. - 16.30 น.

 

2. สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง (ด้านในสถานี)

เวลาทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00 น. - 18.00 น. (*ตรวจสอบเครดิตบูโรเฉพาะบุคคลธรรมดาเท่านั้น)

 

3. ห้างเจเวนิว (นวนคร) ติดโรงพยาบาลนวนคร

เปิดทำการทุกวัน เวลา 10.00 น. - 19.00 น. หยุดนักขัตฤกษ์

(*ตรวจสอบเครดิตบูโรเฉพาะบุคคลธรรมดาเท่านั้น)

 

การตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเองผ่านธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการตรวจสอบเครดิตบูโร

- เคาน์เตอร์ธนาคาร ธนาคารธนชาต ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ทุกสาขาทั่วประเทศ

- ทำรายการผ่านตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ (ต้องมีบัตรเอทีเอ็ม)

- ทำรายการผ่านระบบธนาคารบนโทรศัพท์มือถือของธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ต้องมีบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิตของธนาคารนั้น ๆ

- ทำรายการผ่านธนาคารออนไลน์ ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ต้องมีบัญชีธนาคาร (ให้บริการเฉพาะบุคคลธรรมดา)

 

กรณีทำรายการผ่านเครื่อง ATM สามารถทำรายการขอข้อมูลได้ทันที โดยไม่ต้องกรอกข้อมูลหรือแบบฟอร์มคำขอ ส่วนในกรณียื่นผ่านสาขา ลูกค้าสามารถเลือกการรับข้อมูลเครดิตได้หลายแบบ ทั้งแบบปีละ 1 ครั้ง 2 ครั้ง 4 ครั้ง หรือ 6 ครั้ง โดยยื่นความจำนงเพียงครั้งเดียว ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายอย่างมากให้กับลูกค้าและประชาชน จากนั้นศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติจะส่งข้อมูลเครดิตบูโรให้ทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ภายใน 7 วัน คิดค่าบริการ 150 บาท ต่อ 1 รายการ

 

Q: การตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง ขั้นตอนอย่างไร

ณ ที่ทำการบริษัท  (ศูนย์บริการตรวจสอบเครดิตบูโร) มีขั้นตอนดังนี้

1. เจ้าของข้อมูลมาติดต่อด้วยตนเอง แสดงเอกสารหลักฐาน ดังนี้


กรณีบุคคลธรรมดา

- บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง หรือบัตรประจำตัวบุคคลต่างด้าวตัวจริงนำมาแสดง


กรณีนิติบุคคล

- สำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคล ที่รับรองไว้ไม่เกิน 3 เดือน และลงนามรับรองความถูกต้องโดยกรรมดารผู้มีอำนาจ

- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของกรรมการผู้มีอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้อง พร้อมตัวจริงนำมาแสดง  

- ตราประทับของนิติบุคคล (ถ้ามี) เพื่อใช้ประกอบการยื่นขอคำขอตรวจสอบข้อมูลเครดิต


2. เจ้าของข้อมูลมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาดำเนินการแทน แสดงเอกสารหลักฐาน ดังนี้


กรณีบุคคลธรรมดา

- หนังสือมอบอำนาจบุคคลธรรมดา กรอกรายละเอียดและลงนามให้สมบูรณ์ครบถ้วน

- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้อง พร้อมตัวจริงมาแสดง

- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้อง พร้อมตัวจริงมาแสดง


กรณีนิติบุคคล

- หนังสือมอบอำนาจนิติบุคคล กรอกรายละเอียดและลงนามให้สมบูรณ์ครบถ้วน

- สำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคล ที่รับรองไว้ไม้เกิน 3 เดือน และลงนามรับรองความถูกต้องโดยกรรมการผู้มีอำนาจประทับตราของนิติบุคคล (ถ้ามี) 

- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และลงนามรับรองความถูกต้องพร้อมตัวจริงนำมาแสดง

- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของผู้รับมอบอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้อง พร้อมตัวจริงนำมาแสดง

- ยื่นเอกสารในข้อ 1 และชำระค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบข้อมูลเครติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัท

- เจ้าของข้อมูลสามารถขอรับรายงานภายในวันยื่นคำขอ หรือยื่นความจำนงให้จัดส่งรายงานทางไปรษณีย์ลงทะเบียน (กรณีให้จัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ฉบับละ 20 บาท)

 รหัสสถานะ เครดิตบูโร

 

ความหมายของ "รหัสสถานะ" ทั้งหมดในเครดิตบูโร

A0 = บัญชีปกติ

D1 = อยู่ในระหว่าการเจรจาให้ชำระหนี้

D3 = มีการประนอมหนี้ หรือ มีข้อตกลงในการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่

D5 = มียอดค้างชำระ

F0 = กำลังตรวจสอบบัตรเครดิต หรือบัตรประจำตัว เนื่องจากถูกฉ้อฉล

F1 = บัตรเครดิต หรือบัตรประจำตัว เคยถูกใช้ฉ้อฉล

L0 =อยู่ในระหว่างกระบวนการทางกฏหมาย

L3 = ศาลพิพากษายกฟ้อง

S0 = บัตรเครดิต ถูกขโมย / หาย

T1 = ขายหนี้ไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือนิติบุคคลอื่น

T3 = โอนหนี้ไปยังบัญชีใหม่ หรือบัญชีอื่น

X0 = ปิดบัญชี

X1 = ระงับการให้บริการ (สถานะนี้ร้ายแรง หมายถึงถูกตีเป็นหนี้เสีย และเจ้าหนี้มี  การติดตามทวงถามอยู่ แต่ติดต่อลูกหนี้ไม่ได้)

X2 = ลูกค้าเสียชีวิต หรือสาบสูญ

X5 = ปิดบัญชี ภายหลังจากการติดตามทวงถาม (สถานะนี้ไม่ดีเลย  หลังจากพ้น 3 ปีไปแล้ว ลูกหนี้ต้องนำเอกสารหลักฐานการปิดบัญชีไปขอแก้ไขข้อมูลเครดิต เพื่อให้เครดิตบูโรทำการ “ลบฐานข้อมูลนี้ออกจากบัญชี” เพื่อให้ “สรุปข้อมูลบัญชีสินเชื่อเป็น 0)

X7 = ปิดบัญชีเนื่องจากหนี้สูญ

10 = สถานะปกติ

11 = สถานะปิดบัญชี

12 = พักชำระหนี้ ตามนโยบายของรัฐ

20 = มีหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน

30 = อยู่ในกระบวนการทางกฏหมาย

31 = อยู่ในระหว่างชำระหนี้ตามคำพิพากษา ตามยอม

32 = ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากขาดอายุความ

33 = ปิดบัญชี เนื่องจากตัดเป็นหนี้สูญ

40 = อยู่ระหว่างชำระสินเชื่อ เพื่อปิดบัญชี

41 = เจ้าของข้อมูลขอตรวจสอบรายการ

42 = โอนหรือขายหนี้

 

สถานะที่มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ประวัติยังคงอยู่ในระบบอีก 3 ปีถึงแม้ว่าเราปิดบัญชีไปแล้ว หรือเป็นสถานะปกติแล้ว

 


สำหรับผู้ที่กำลังหาซื้อบ้านพร้อมอยู่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล สามารถเลือกชมได้ที่นี่

>> https://www.bangkokassets.com/recommendbybangkok.html

 

ผู้ที่สนใจฝากขายบ้านมือสองในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล  

สามารถติดต่อได้ที่นี่กรอกข้อมูลบ้าน และช่องทางติดต่อกลับ >> คลิกที่นี่ <<


ขอบคุณข้อมูลจาก www.ncb.co.th , www.thitiblog.com/blog/6571

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาที่ท่านอาจสนใจ เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น นโยบายคุกกี้และนโยบายความเป็นส่วนตัว