รวมเรื่อง “ย้ายทะเบียนบ้าน” ที่คนซื้อบ้านจำเป็นต้องรู้
การย้ายบ้านใหม่จะต้องมีการย้ายสำเนาทะเบียนบ้านไปยังบ้านหรือคอนโดหลังใหม่
ซึ่งเจ้าของมือใหม่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้ต้องทำอย่างไรบ้าง เช่น
ขั้นตอนการย้ายทะเบียนบ้าน มีวิธีไหนบ้าง และมีเอกสารใดบ้างที่ต้องเตรียม
ขั้นตอนทางกฎหมายต่างๆมีอะไรบ้าง มาทำความเข้าใจกันได้เลยครับ
1.ซื้อบ้านใหม่ ต้องย้ายทะเบียนบ้านหรือไม่
โดยทั่วไปแล้วเมื่อมีการย้ายที่อยู่
ทางทะเบียนราษฎร์ได้มีข้อกำหนดให้ผู้ที่ย้ายเข้าที่อยู่ใหม่ต้องทำการแจ้งย้ายเข้าบ้านภายใน
15 วัน นับตั้งแต่วันที่มีการย้ายบ้าน
หากไม่ทำตามจะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่มีการย้ายเข้าที่อยู่อาศัยใหม่
เจ้าของบ้านจะต้องทำการแจ้งย้ายทะเบียนบ้านภายในช่วงเวลาที่กำหนดดังกล่าว
ในกรณีที่เป็นลูกบ้านเดิมและต้องการย้ายทะเบียนบ้านเข้าที่อยู่ใหม่
ต้องแจ้งเจ้าบ้านเดิมให้ทำการย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านภายใน 15 วัน
เพื่อไม่ให้โดนโทษปรับ เนื่องจากเป็นความผิดตามกฎหมาย
ดังนั้นหากซื้อบ้านใหม่และต้องการย้ายเข้าทะเบียนบ้านหลังใหม่ อย่าลืมแจ้งเจ้าบ้านเดิมให้ทราบด้วย
เพื่อให้ทำการย้ายชื่อออกเป็นไปอย่างถูกต้อง ข้อกำหนดอีกอย่างหนึ่งที่ควรรู้ คือ ตาม
พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535 กำหนดให้พื้นที่ 3 ตารางเมตรนั้น มีผู้อยู่อาศัยได้ 1 คน
ดังนั้นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้านจึงมีได้แค่ 1 คนเท่านั้น
ซึ่งเมื่อเจ้าบ้านได้ย้ายเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านนั้น ๆ เป็นเวลา 1 ปีและทำการขายบ้าน
ก็จะได้รับการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3 % ของราคาขายหรือราคาประเมิน
(ขึ้นอยู่กับว่าราคาใดจะถูกกว่ากัน)
ดังนั้นการมีทะเบียนบ้านจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
การย้ายทะเบียนบ้านเข้าเขตที่อยู่ใหม่นั้น
มีความสำคัญคือจะทำให้เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย
มีสิทธิ์ได้รับการรักษาพยาบาลในเขตนั้น ๆ รวมถึงมีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง
อีกทั้งยังมีประโยชน์ในการใช้เป็นเอกสารราชการสำหรับการดำเนินการต่าง ๆ
ดังนั้นหากไม่อยากเสียสิทธิ์ที่ควรได้และเป็นการทำตามกฎหมายทะเบียนราษฎร์
ก็ควรทำเรื่องย้ายทะเบียนบ้านให้เรียบร้อย
2.สามารถแจ้งย้ายบ้านปลายทางได้ไหม
การย้ายทะเบียนบ้านนั้นสามารถทำได้ด้วยการย้ายออก
โดยทำการแจ้งย้ายภายใน 15 วันหลังย้ายออกจากบ้านเดิม
แต่ทั้งนี้หากไม่สะดวกที่จะแจ้งย้ายออกก็สามารถแจ้งย้ายบ้านปลายทางได้เช่นกัน
ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วสำหรับผู้ซื้อบ้านใหม่อย่างมาก
การย้ายทะเบียนบ้านปลายทางนั้น
สามารถไปแจ้งย้ายเข้าที่อยู่ใหม่ได้เลย
โดยไม่จำเป็นต้องไปแจ้งย้ายออกจากทะเบียนบ้านเดิม โดยการดำเนินการดังกล่าวจะทำได้ไม่เกินครั้งละ
3 คน
หมายความว่าถ้ามีสมาชิกที่จะย้ายเข้าบ้านใหม่และต้องการแจ้งย้ายปลายทาง
ทำได้ไม่เกิน 3 คนในคราวเดียวกัน หากสมาชิกในบ้านมีมากกว่านั้นอย่างเช่น 5 คน
ก็จะต้องทำการแจ้งย้าย 2 รอบเป็นอย่างต่ำ
โดยในการย้ายทะเบียนบ้านปลายทางนี้
สมาชิกในบ้านจะต้องไปยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งเหตุผลในการย้ายปลายทาง
หากเป็นการย้ายบ้านในพื้นที่เขตเดียวกันจะไม่สามารถทำการแจ้งย้ายปลายทางได้
ต้องทำการย้ายทะเบียนบ้านออกจากบ้านเดิมแล้วทำเรื่องย้ายเข้าบ้านหลังใหม่เท่านั้น
3.เอกสารที่ต้องเตรียมในการย้ายทะเบียนบ้านมีอะไรบ้าง
การย้ายทะเบียนบ้านเข้าบ้านหลังใหม่โดยเจ้าของบ้านเอง
สามารถเตรียมเอกสารเพื่อประกอบการยื่นคำขอที่ประกอบไปด้วยรายละเอียด ดังนี้
3.1 สัญญาซื้อขายบ้านหรือโฉนดที่ดิน
หลังจากที่ทำการซื้อบ้านและทำการโอนกรรมสิทธิ์จากทางโครงการบ้านมาแล้วเรียบร้อย
เจ้าของบ้านจะได้รับทะเบียนบ้านเปล่า พร้อมด้วยหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายบ้าน
พร้อมสิ่งปลูกสร้างและสัญญาซื้อขายที่ดินกับสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งโฉนด
แต่หากไม่ได้ซื้อเงินสดก็จะได้รับเป็นสัญญาจำนองที่ใช้แทนโฉนดตัวจริง
ซึ่งเอกสารดังกล่าวนี้สามารถนำไปประกอบการยื่นเรื่องเพื่อขอย้ายบ้านได้
3.2เอกสารประจำตัว
บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงและทะเบียนบ้านเล่มจริง
หรือเอกสารดังที่กล่าวถึงในข้อ 1
-สัญญาซื้อขายพร้อมสำเนา
-สัญญาจะซื้อจะขายพร้อมสำเนา
-สัญญาจำนองพร้อมสำเนา
-สำเนาทะเบียนบ้านเดิมจำนวน 2 ฉบับ และค่าธรรมเนียม 20 บาท
เอกสารทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้
ให้นำไปยื่นที่ทำการเขตหรือเทศบาลเพื่อทำการขอย้าย
จากนั้นนายทะเบียนจะทำการตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ ถ้าถูกต้องเรียบร้อยดีก็จะมอบสำเนาทะเบียนบ้านและหลักฐานต่าง
ๆ คืนมาให้ แต่หากเป็นกรณีที่เป็นการย้ายทะเบียนบ้านโดยที่ไม่ใช่เจ้าบ้าน
จะต้องเตรียมเอกสารเพื่อใช้ในการยื่นคำร้องขอย้ายทะเบียนบ้านปลายทางดังต่อไปนี้
-บัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้งย้าย
-บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าบ้านที่จะย้ายปลายทางเข้าอยู่ใหม่
-สำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าบ้านหลังที่จะย้ายเข้าไปอยู่
-ในกรณีเจ้าบ้านไม่สามารถไปแจ้งย้ายได้ด้วยตนเอง
ต้องมีหนังสือยินยอมให้แจ้งย้ายเข้าแนบไปด้วย
-หนังสือมอบหมายจากผู้ย้ายที่อยู่
เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้วให้เดินทางไปยื่นคำร้องที่ทำการเขตหรือเทศบาล
พร้อมกับแจ้งว่าต้องการย้ายทะเบียนบ้านปลายทาง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ
ซึ่งหากเรียบร้อยดี ก็จะสามารถทำการย้ายทะเบียนบ้านปลายทางได้สำเร็จ
ทั้งนี้การย้ายทะเบียนบ้านเข้าเป็นลูกบ้านนั้น ต้องดำเนินการยื่นเรื่องภายใน 15 วัน
ไม่เช่นนั้นอาจต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
4.มีบ้านหลายหลัง ทำยังไงกับทะเบียนบ้านดี
คนที่ลงทุนอสังหาริมทรัพย์
อย่างเช่นคนที่ชอบซื้อบ้านหรือคอนโดไว้หลายแห่งเพื่อลงทุน
อาจจะมีคำถามว่าต้องขอทะเบียนบ้านอย่างไร เนื่องจากมีอยู่ด้วยกันหลายแห่ง ซึ่งตามที่กฎหมายกำหนดนั้นจะอนุญาตให้บุคคล
1 คนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเพียง 1 แห่งเท่านั้น
ไม่อนุญาตให้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหลายแห่ง
ด้วยเหตุผลในเรื่องของสิทธิ์การเลือกตั้งและสิทธิ์อื่น ๆ
ดังนั้นหากมีบ้านหลายหลังก็อาจจะต้องหาผู้ที่เป็นญาติมาเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนแทน
เพื่อไม่ให้ทะเบียนบ้านว่าง
ดังที่กล่าวมาข้างต้น
หากมีคำถามต่อมาว่าหากไม่สามารถหาญาติหรือผู้เกี่ยวข้องที่จะมาใส่ชื่อเป็นเจ้าบ้านให้ได้
แล้วต้องปล่อยทะเบียนบ้านว่าง ไม่มีชื่อบุคคลในทะเบียนดังกล่าวจะเป็นอย่างไร คำตอบ
คือ เมื่อต้องการขายบ้านหลังดังกล่าวโดยที่ครอบครองมาได้ไม่ถึง 5 ปี
เจ้าของหรือผู้ขายจะต้องเสียภาษีธุรกิจในอัตรา 3.3 % จากราคาประเมิน เช่น บ้านราคา 2 ล้านบาท
ที่เป็นทะเบียนบ้านเปล่าไม่มีชื่อเจ้าบ้านในทะเบียน เมื่อจะขายต้องเสียภาษีในอัตรา
3.3 % คิดเป็นจำนวนเงิน 66,000
บาท
แต่หากเป็นบ้านที่มีชื่อเจ้าของบ้านในทะเบียนก็ไม่ต้องเสียภาษีในส่วนนี้
แต่จะต้องชำระค่าอากรในอัตรา 0.5
% แทนซึ่งก็เท่ากับต้องจ่ายเพียง 10,000 บาทเท่านั้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นจำนวนเงินที่แตกต่างกันมากพอสมควร ดังนั้นหากไม่อยากเสียเงินภาษีในอัตราที่สูงดังที่ยกตัวอย่างมาข้างต้น
ก็ต้องหาผู้เกี่ยวข้องที่จะมาถือทะเบียนบ้านแทนเจ้าของจริงให้ได้
ทั้งนี้เรื่องสำคัญอีกอย่างที่ต้องรู้
คือ แม้จะเป็นการซื้อบ้านในนามนิติบุคคล
แต่ทะเบียนบ้านหลังดังกล่าวไม่มีชื่อของเจ้าบ้านผู้ถือครอง
ตอนที่จะขายก็ต้องเสียภาษีธุรกิจในอัตรา 3.3 % เช่นเดียวกัน
ดังนั้นคนที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อลงทุนหรือเก็งกำไรต้องคำนึงถึงความสำคัญในเรื่องนี้
จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง หากหาคนที่มาเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนไม่ได้จริง ๆ
ก็ต้องจ่ายภาษีตามข้อกำหนดโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
5.ทะเบียนบ้านหายหรือชำรุด ทำอย่างไรได้บ้าง
เนื่องจากทะเบียนบ้านเป็นเอกสารราชการที่มีความสำคัญ
ต้องใช้ประกอบในการยื่นขอคำร้องต่าง ๆ เช่น ทำธุรกรรม, สมัครงาน
หรือสมัครเรียนต่อ ดังนั้นจึงเป็นเอกสารที่จะต้องมีพร้อมไว้เสมอ แต่หากมีการสูญหายหรือชำรุดก็ต้องรีบทำเรื่องยื่นขอทะเบียนบ้านเล่มใหม่ให้เร็วที่สุด
โดยดำเนินการเพื่อขอเล่มทะเบียนบ้านใหม่ในกรณีที่สูญหายนั้น
ไม่จำเป็นต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ
เพียงแค่เจ้าของบ้านนำบัตรประจำตัวประชาชนของตนเองไปติดต่อที่นายทะเบียนเขตหรืออำเภอก็สามารถดำเนินการได้ทันที
แต่หากเจ้าของบ้านไม่สะดวกที่จะไปแจ้งขอทะเบียนบ้านเล่มใหม่ด้วยตนเอง
ให้ทำหนังสือมอบอำนาจกับผู้ที่จะไปทำการยื่นขอ โดยเอกสารที่จะต้องเตรียม คือ
-หนังสือมอบอำนาจที่ออกโดยเจ้าบ้าน
-บัตรประชาชนของเจ้าของบ้าน (ตัวจริง)
-บัตรประชาชนของผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ (ตัวจริง)
-ค่าธรรมเนียม 20 บาท
การยื่นขอทะเบียนบ้านเล่มใหม่นั้น
ในกรุงเทพฯ สามารถไปดำเนินการขอเล่มใหม่ได้ที่สำนักงานเขตของพื้นที่เจ้าบ้านอยู่ หากเป็นต่างจังหวัดสามารถไปยื่นเรื่องขอได้ที่ว่าการอำเภอในพื้นที่เจ้าบ้านอาศัยอยู่ได้เลย
ในกรณีที่เจ้าบ้านสูญหายหรือเสียชีวิตโดยที่ยังไม่มีเจ้าบ้านใหม่
หากต้องการยื่นขอทะเบียนบ้านเล่มใหม่ในกรณีที่สูญหายหรือชำรุด
สามารถให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนั้นทำการเดินเรื่องได้ทันที
โดยจะต้องนำเอกสารถือครองกรรมสิทธิ์พร้อมด้วยบัตรประชาชนของตนเองไปยื่นขอเล่มทะเบียนบ้านใหม่
แต่หากเจ้าของกรรมสิทธิ์ยังเป็นผู้เยาว์ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ให้ผู้ปกครองเป็นผู้ดำเนินการแทน แม้ว่าการขอทะเบียนบ้านเล่มใหม่นั้นจะทำได้ไม่ยาก
แต่ทั้งนี้ก็ควรเก็บรักษาเล่มทะเบียนบ้านให้ดี เพื่อความปลอดภัย
ไม่เกิดการชำรุดหรือสูญหายที่จะทำให้ต้องเสียเวลาไปขอใหม่กันอยู่บ่อย ๆ
ถึงตอนนี้เจ้าของบ้านมือใหม่ก็คงจะได้รู้แล้วว่าการย้ายทะเบียนบ้านนั้นต้องทำอย่างไร
และมีเอกสารอะไรที่ต้องใช้บ้าง
เมื่อจะย้ายเข้าบ้านหรือคอนโดใหม่จะได้ทำการเตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี
ทำให้การย้ายบ้านเป็นไปได้อย่างราบรื่น ไร้ปัญหา
สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ในบ้านหลังใหม่ได้อย่างสบายใจ
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงนี้
บางกอก แอสเซทฯ มีโปรโมชั่น ส่วนลดพิเศษสุดในรอบ 10 ปี สำหรับบ้านและทาวน์โฮมพร้อมอยู่
ทำเลกรุงเทพฯ นนทบุรี และปริมณฑล สามารถค้นหาได้ที่นี่เลยครับ
ที่มา : ananda , sansiri
สำหรับผู้ที่กำลังหาซื้อบ้านพร้อมอยู่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
ชม รีวิวบ้านมือสองตกแต่งใหม่ คลิก
ผู้ที่สนใจฝากขาย บ้านมือสอง ในกรุงเทพฯ บ้านมือสองนนทบุรี และปริมณฑล
สามารถติดต่อได้ที่นี่กรอกข้อมูลบ้าน และช่องทางติดต่อกลับ > คลิกที่นี่ <