5 เหตุผลเด็ดที่บ้านมือสองใกล้รถไฟฟ้า กลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของคนรุ่นใหม่
การมองหาบ้านสักหลังในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑลช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นการพิจารณาทำเลใกล้รถไฟฟ้า แต่ด้วยราคาบ้านใหม่ที่พุ่งทะยานไม่หยุด ทำให้หลายคนหันมามองบ้านมือสองเป็นตัวเลือก แต่คำถามคือ "บ้านมือสองใกล้รถไฟฟ้า" จริงๆ แล้วคุ้มค่ากับการลงทุนไหม? มาดูกันว่ามีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
1. ประหยัดเงินได้มหาศาล แต่ได้ทำเลระดับพรีเมียม บ้านมือสองใกล้รถไฟฟ้ามีราคาถูกกว่าบ้านใหม่ในทำเลเดียวกันถึง 20-30% เรียกว่าเป็นโอกาสทองที่คุณจะได้เป็นเจ้าของบ้านในทำเลระดับ A แต่จ่ายในราคาทำเล B นี่คือการลงทุนที่ชาญฉลาดที่สุดในยุคที่ราคาที่ดินและบ้านใหม่พุ่งสูงขึ้นทุกวัน กับงบประมาณเท่ากัน คุณอาจได้บ้านที่มีพื้นที่ใหญ่กว่า หรือทำเลที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับโครงการใหม่
2. ประหยัดเวลาและค่าเดินทาง ลองคำนวณดูว่า การอยู่ใกล้รถไฟฟ้าจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาเดินทางได้วันละกี่ชั่วโมง? คนกรุงเทพฯ เสียเวลาบนท้องถนนเฉลี่ยวันละ 2-3 ชั่วโมง นั่นหมายถึง 730 ชั่วโมงต่อปี หรือเกือบ 1 เดือนเต็มๆ ที่หายไปกับการเดินทาง! การอยู่ใกล้รถไฟฟ้าจะให้เวลาเหล่านั้นกลับคืนมา คุณจะมีเวลาให้กับครอบครัว งานอดิเรก หรือแม้แต่การพักผ่อนมากขึ้น ไม่ต้องตื่นแต่เช้ามืด ไม่ต้องกลับบ้านดึก เรียกได้ว่า "คุณภาพชีวิต" คือสิ่งที่บ้านใกล้รถไฟฟ้ามอบให้ที่เงินไม่สามารถซื้อได้
3. มูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำเลใกล้รถไฟฟ้าคือทำเลที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่มีวันตก ข้อมูลจากการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ย้อนหลัง 10 ปี แสดงให้เห็นว่า บ้านและคอนโดในรัศมี 500 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้ามีการเติบโตของราคาสูงกว่าพื้นที่อื่นถึง 8-12% ต่อปี นั่นหมายความว่าการซื้อบ้านมือสองใกล้รถไฟฟ้าไม่ใช่แค่การซื้อที่อยู่อาศัย แต่คือการลงทุนที่มีโอกาสทำกำไรได้ในอนาคต โดยเฉพาะสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อหรือใกล้กับศูนย์การค้าขนาดใหญ่
4. เข้าถึงได้ไลฟ์สไตล์หลากหลาย บ้านใกล้รถไฟฟ้าทำให้คุณเข้าถึงไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้โดยไม่ต้องพึ่งรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สวนสาธารณะ หรือแม้แต่สถานบันเทิงยามค่ำคืน ทุกอย่างอยู่ในระยะที่เดินทางได้สะดวก ช่วยให้ชีวิตสังคมของคุณคึกคักและมีสีสันมากขึ้น แถมยังเพิ่มโอกาสในการพบปะผู้คนใหม่ๆ อีกด้วย
5. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ การอยู่ใกล้รถไฟฟ้าช่วยลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ลดมลพิษ และส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ การเดินจากบ้านไปสถานียังเป็นการออกกำลังกายเบาๆ ที่ทำให้สุขภาพดีขึ้น ลดความเครียดจากการขับรถในช่วงรถติด ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพจิตในระยะยาว
แน่นอนว่าบ้านมือสองย่อมมีร่องรอยการใช้งาน หรืออาจมีการออกแบบที่ล้าสมัย แต่นี่คือโอกาสดีในการรีโนเวทบ้าน ให้ตรงใจในแบบที่คุณต้องการ ด้วยงบประมาณที่น้อยกว่าการซื้อบ้านใหม่มาก หลายคนสามารถปรับปรุงบ้านมือสองให้ดูทันสมัยและมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ทำให้บ้านมีคาแรคเตอร์และเสน่ห์ที่บ้านใหม่ไม่มี ขอแนะนำเพิ่มเติมว่าลองให้มืออาชีพเข้ามาช่วยวางแผนปรับปรุงพื้นที่ด้วยจะช่วยประหยัดทั้งเวลาและเงินในระยะยาวได้ด้วยนะครับ
โครงสร้างพื้นฐานที่อาจเก่า บ้านเก่าอาจมีระบบไฟฟ้าและประปาที่ต้องปรับปรุง แต่การลงทุนปรับปรุงระบบเหล่านี้จะช่วยทำให้บ้านทันสมัยและปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งการติดตั้งระบบอัจฉริยะ (Smart Home) หรืออุปกรณ์ประหยัดพลังงานในบ้านเก่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านได้อีกด้วย
เสียงรบกวนจากรถไฟฟ้า สำหรับบ้านที่อยู่ใกล้รางรถไฟฟ้ามาก อาจมีเสียงรบกวนบ้าง แต่ด้วยเทคโนโลยีการก่อสร้างและวัสดุลดเสียงสมัยใหม่ เช่น กระจกสองชั้น ผนังเก็บเสียง หรือวัสดุดูดซับเสียงพิเศษ สามารถลดผลกระทบได้อย่างมาก หรือแม้แต่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์และการปลูกต้นไม้ในตำแหน่งที่เหมาะสมก็ช่วยลดเสียงได้อย่างน่าประหลาดใจ
ปัญหาการจราจรที่เลี่ยงไม่ได้ พื้นที่รอบสถานีอาจมีการจราจรหนาแน่น แต่นั่นคือจุดเด่นของการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า – คุณไม่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัวบ่อย! คุณสามารถเลือกเดินไปใช้รถไฟฟ้าได้ทันที ขณะที่คนอื่นยังติดอยู่ในรถบนท้องถนน
อาจมีปัญหาน้ำท่วมในบางพื้นที่ หมู่บ้านเก่าบางแห่งอาจมีปัญหาการระบายน้ำ แต่คุณสามารถตรวจสอบประวัติน้ำท่วมในพื้นที่ได้ก่อนซื้อ และยังมีเทคโนโลยีและระบบป้องกันน้ำท่วมสมัยใหม่ที่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้ เช่น ประตูกั้นน้ำ หรือระบบสูบน้ำอัตโนมัติ
เทคนิคการเลือกบ้านมือสองใกล้รถไฟฟ้าให้ถูกใจ และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ
ระยะทางที่เหมาะสม บ้านที่อยู่ในรัศมี 300-800 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้า ถือว่าเป็นระยะที่สมบูรณ์แบบที่สุด ใกล้พอที่จะเดินได้สบายๆ ภายใน 10 นาที แต่ไม่ใกล้จนเกินไปที่จะได้รับผลกระทบจากเสียงรถไฟโดยตรง
ตรวจสอบโครงสร้างอย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรจ้างวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบสภาพบ้าน ทั้งโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า ประปา และรอยร้าวต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต (ค่าใช้จ่ายส่วนนี้น้อยมากเมื่อเทียบกับการต้องมาแก้ปัญหาในภายหลัง)
ศึกษาแผนพัฒนาในอนาคต เมืองรอบๆ สถานีรถไฟฟ้ามักมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างห้างใหม่ ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลดีต่อมูลค่าบ้านของคุณในอนาคต ศึกษาแผนพัฒนาเมืองจากหน่วยงานท้องถิ่นหรือจากอินเทอร์เน็ต
พิจารณางบปรับปรุงให้รัดกุม นอกจากราคาบ้านแล้ว ควรตั้งงบประมาณสำหรับการปรับปรุงด้วย โดยเฉลี่ยอาจอยู่ที่ 15-25% ของราคาบ้าน การวางแผนงบประมาณที่ดีจะช่วยให้คุณได้บ้านที่ถูกใจโดยไม่เกินงบ
ติดตั้งระบบสมาร์ทโฮม เทรนด์ใหญ่ในปัจจุบันคือการปรับปรุงบ้านมือสองให้กลายเป็นบ้านอัจฉริยะ การติดตั้งระบบสมาร์ทโฮมไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านอีกด้วย ระบบเหล่านี้มีตั้งแต่การควบคุมไฟและเครื่องปรับอากาศผ่านสมาร์ทโฟน ไปจนถึงระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะที่มาพร้อมกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวได้
ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้น การจราจรติดขัด และเวลาเป็นสิ่งมีค่า บ้านมือสองใกล้รถไฟฟ้าจึงกลายเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่การลงทุนและคุณภาพชีวิต คุณได้ทั้งทำเลที่ดี ราคาที่เข้าถึงได้ ประหยัดเวลาในการเดินทาง และแน่นอนว่าสำหรับบางท่านที่ต้องการ Customize บ้านให้เป็นไปตามสไตล์ที่ต้องการ บ้านมือสองย่อมเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์กว่า ทว่าสุดท้ายแล้ว บ้านมือสองใกล้รถไฟฟ้าอาจไม่เพอร์เฟกต์ 100% แต่ข้อดีที่มากมายก็ล้วนคุ้มค่า และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณไม่ต่างอะไรจากบ้านมือหนึ่งเลยล่ะครับ
