Loading...

Loading
รับฝากขายบ้าน : บ้านมือสอง

10 ที่เที่ยวปีใหม่ น่าเช็คอิน! บอกได้คำเดียวว่าพลาดไม่ได้

04 ธันวาคม 2560

       สำหรับใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวในวันหยุดยาวช่วงปีใหม่นี้ แต่ยังนึกไม่ออก เลือกไม่ถูก ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี วันนี้บ้านบางกอก คัดมาให้คุณแล้ว สำหรับ "10 ที่เที่ยวน่าเช็คอิน! ช่วงปีใหม่" เพื่อเก็บความทรงจำดีๆ การันตีความประทับใจแน่นอนครับ


5859.jpg
hippoontour.com


1. “ภูเรือ” 

       กอดลมหนาว นั่งเฝ้าพระอาทิตย์ขึ้น-รับแสงแรกของวัน ที่นี่บอกเลยว่าหนาวที่สุดในภาคอีสานบ้านเฮาแล้ว! ปีใหม่นี้พากันไปกอดอากาศหนาวๆ นั่งเฝ้าพระอาทิตย์ขึ้นกันดีกว่า…  “อุทยานแห่งชาติภูเรือ” จ.เลยชื่อ “ภูเรือ” นี้มาจาก มีภูเขาลูกหนึ่งมีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายเรื่อสำเภา และที่ราบบนยอดเขามีลักษณะคล้ายท้องเรือตลอดจนมีธรรมชาติและทิวทัศน์ที่แสนจะงดงาม มีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น 2 จุดเด็ดๆด้วยกันคือ “จุดชมทิวทัศน์เดโช” เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูต่างๆ ของเมืองเลยได้แบบ 180 องศา เลยทีเดียว และอีกจุดชมวิว คือ “ผาโหล่นน้อย” อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเรือประมาณ 3 กิโลเมตร จากจุดนี้จะมองเห็นภูหลวง ภูผาสาด ภูครั่ง และภูเขาสลับซับซ้อนแบบสุดลูกตา ตอนเช้าเมื่อแสงเริ่ม โผล่มาให้เห็น บอกเลยว่ามันเป็นบรรยากาศที่ไม่ว่าจะพาใครไปก็รู้สึกฟินน จำไปทั้งชีวิตแน่นอน!

การเดินทาง
จากตัวเมืองเลย ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 203 (เลย–ภูเรือ) ขับรถระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลเมตร 49 – 50 “ตรงที่ว่าการอำเภอภูเรือ” เข้าไปเป็นทางลาดยางประมาณ 8 กิโลเมตร รถยนต์สามารถขึ้นได้ และมีทางเดินเท้า 700 เมตร ก็จะถึงยอดภูเรือ


chiangkhan-featured.jpg
www.golity.com


2. “เชียงคาน” 

        เดินชิลเมืองโบราณริมน้ำโขง ไม่น่าเชื่อว่าตรอกเล็กๆ ริมน้ำโขงแห่งนี้จะมีนักท่องเที่ยวทุกมุมโลกมาเยี่ยมเยียนอย่างไม่ขาดสาย “เชียงคาน” เป็นเมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทยที่จังหวัดเลย เมืองที่ยังคงความสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมโบราณดั้งเดิม และที่สำคัญเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สามารถไปเที่ยวได้ในทุกช่วงเวลาทั้งหน้าร้อน หน้าฝน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าหนาวนี่ยิ่งเด็ดเลยขอบอก เสน่ห์ดึงดูดใจของที่นี่ก็คือ “มนต์สเน่ห์แห่งความพอเพียง” การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและวัฒนธรรมประเพณีที่สืบต่อกันมา เช่น การตักบาตรข้าวเหนียว ยังคงมีให้เห็นได้ในทุกเช้ามืดของเมืองที่เงียบสงบแห่งนี้ สำหรับกิจกรรมชิลๆ ที่นักท่องเที่ยวหลายคนมักทำกันก็คือ การขี่จักรยาน ปั่นชิลเลียบริมน้ำแม่โขง มองเห็นฝั่งประเทศลาวอยู่ไกลๆ รวมถึงการปั่นจักรยานไปสำรวจตามตรอกซอกซอยต่างๆ เพื่อถ่ายรูป และดูบ้านเรือนเก่าๆ บน ถนนศรีเชียงคาน ถนนที่ขนานคู่กันไปไปกับถนนใหญ่ซึ่งเป็นถนนสายหลักนั่นเอง

การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ผ่านตัวเมืองสระบุรี ตรงเข้าทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์ ตรงเข้าทางหลวงหมายเลข 203 ผ่านอำเภอหล่มสัก หล่มเก่า เข้าเขตจังหวัดเลย ที่อำเภอด่านซ้าย อำเภอภูเรือ ถึง ตัวจังหวัดเลย เข้าตัวเมืองเลย จากทางหลวงหมายเลข 203 ตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 201 มุ่งสู่ อ.เชียงคาน


1443431615-DSC0444-o.jpg
pantip.com/topic/34238680

3. “ปางอุ๋ง” 

      ชมทะเลสาบสายหมอก หากได้พบกับสิ่งดีๆ ตั้งแต่เช้าวันใหม่ จะทำให้วันนั้นเราอารมณ์ดีไปทั้งวันเชื่อว่าหากคุณได้ลืมตาตื่นขึ้นมา พบกับภาพที่แสนมหัศจรรย์ของปางอุ๋งยามฤดูหนาวแบบนี้ ฟินนไปทั้งวันอย่างแน่นอน “ปางอุ๋ง” ที่ใครๆ ต่างขนานนามให้เป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ด้วยความงามของทิวสนลำต้นสูงใหญ่ รายล้อมรอบอ่างเก็บน้ำที่สงบนิ่ง อากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี หากต้องการสัมผัสไอหมอกยามเช้า แนะนำให้กางเต็นท์พักแรมกันที่ปางอุ๋งได้เลย (ติดต่อลงทะเบียนผ่านศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน) ด้วยภาพของไอหมอกยามเช้าละเลียดผ่านหุบเขาลอยลงอย่างอ้อยอิ่ง กระทั่งแสงอาทิตย์ทอประกายสะท้อนผิวน้ำเป็นดั่งสีทอง บรรยากาศแบบนี้รับรองว่าสิ่งที่ได้เห็นจะกลายเป็นความทรงจำอันแสนประทับใจที่น่าจดจำไปชั่วชีวิตเลยทีเดียว

การเดินทาง
เดินทางออกจากเมืองแม่ฮ่องสอนไปตามเส้นทาง แม่ฮ่องสอน – ปางมะผ้า – ปาย ประมาณ 10 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกว่าเลี้ยวซ้ายไป บ้านรวมไทย น้ำตกผาเสื่อ พระตำหนักปางตอง ซึ่งอยู่บนส้นทางเดียวกัน จากนั้นเดินทางขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านน้ำตกผาเสื่อ ผ่านพระตำหนักปางตอง ให้สังเกตุทางแยกซ้ายมือนิดนึง เพราะจะมีป้ายเล็กๆ เขียนบอกว่าไป “บ้านรวมไทย” ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปเรื่อยๆ  จนถึงหมู่บ้านห้วยมะเขือส้ม ซึ่งจะมีทางแยกรูปตัว T เลี้ยวขวาตรงแยก ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะถึง “บ้านรวมไทย” หรือ “ปางอุ๋ง


12052311358ae617a9f6c020c0.jpg
www.fotobug.net

4. “มวกเหล็ก” 

       ไร่องุ่น บรรยากาศดี น่าไปชิล อ.มวกเหล็กนั้นมีไร่องุ่นจำนวนมาก และมีผลิตภัณฑ์จากองุ่น ไม่ว่าจะเป็นองุ่นสด ไวน์ น้ำองุ่น องุ่นหยี หรือแยมองุ่น มากมาย ปีใหม่นี้อากาศหนาวๆเราไปเที่ยวเด็ดองุ่นชิมกันที่ ไร่องุ่น มวกเหล็ก ใกล้ๆ กรุงเทพฯ กันดีกว่า อีกทั้งไร่ต่างๆ ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวร่วมกิจกรรมเก็บองุ่นได้อีก ปีใหม่นี้ ใครอยากได้ภาพสวยๆ เดินเก็บองุ่นในไร่ แปลงร่างชาวบ้านไร่ ลองไปเที่ยวไร่องุ่นที่มวกเหล็กกันดู ซึ่งเราก็มีมาแนะนำกันถึง 4 ที่ด้วยกันเลยทีเดียว

ไร่องุ่นแวงเดอร์เรย์ (Vin De Ray)

ที่นี่เป็นไร่องุ่นที่คัดสรรพันธุ์องุ่นสำหรับการผลิตไวน์โดยเฉพาะ มีแปลงองุ่นให้เห็นกันตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึง เกือบสุดเนินเขา มีโรงบ่มไวน์ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถชมการสาธิตการผลิตไวน์ และมีผลิตภัณฑ์แปรรูปขององุ่น

ไร่องุ่นปภัสรา

เป็นไร่ของดาราชื่อดัง คุณกบ ปภัสรา ภายในไร่ปลูกองุ่นหลากหลายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีฟาร์มนกกระจอกเทศ และฟาร์มเพาะพันธุ์ม้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีกิจกรรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว เช่นวอล์คแรลลี่, ขี่จักรยานตามไหล่เขา, ขี่ม้าชมฟาร์ม

ไร่องุ่นภูอมร

นอกจากทิวองุ่นยาวสุดลูกตาแล้ว ที่นี่ยงมีโรงบ่มไวน์ที่ได้รับรางวัลระดับ 4-5 ดาว เพราะฉะนั้นนักชิมไวน์ ต้องไม่พลาดที่จะมาซื้อไวน์จากที่นี่ไปลองชิม นอกจากไวน์แล้ว คนที่ไม่ชอบไวน์ก็ใช่จะไม่มีอย่างอื่นจนเซ็งไป เพราะน้ำองุ่นสด รสชุ่มคอ อร่อยใช้ได้ทีเดียว

ไร่องุ่นคุณมาลี

ที่นี่บอกเลยว่าเด็ด! เพราะเป็นไร่องุ่น ที่สามารถมองเห็นได้ตั้งแต่ขับรถมาจากถนนวังม่วง-มวกเหล็กทีเดียวเชียว นอกจากจะเป็นไร่องุ่นแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์จากองุ่นสดๆ หลากชนิด ให้นักท่องเที่ยวซื้อเป็นของฝากกลับบ้าน แต่ถ้ายังไม่อยากกลับ เพราะติดใจในบรรยากาศเย็นสบายๆ แบบนี้ ไร่องุ่นคุณมาลี ก็มีบริการให้กางเต้นท์นอนเล่นเย็นๆ เช็คอิน ถ่ายรูปชิลกันอีกด้วย

การเดินทาง
ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน ผ่านรังสิตจนมาถึงหลักกิโลเมตรที่ 50 ให้เลี้ยวขวาผ่าน อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผ่าน อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี เข้าสู่ตัวเมืองสระบุรีจากนั้นให้เลี้ยวขวาใช้ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ขับไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร คุณก็จะถึง อำเภอมวกเหล็ก


1463412253357CORO_FIELD-14.jpg
www.fotobug.net

5. “Coro Field สวนผึ้ง” 

        Farming สไตล์ญี่ปุ่นแห่งแรกในไทย วันหยุดนี้ไปพักผ่อนชิลๆ ที่ Coro Field ที่เที่ยวรูปแบบใหม่ Lifestyle Farming สไตล์ญี่ปุ่นแห่งเดียวในประเทศไทย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีนี่เองสัมผัสประสบการณ์ทางการเกษตรในรูปแบบใหม่ หรือ Lifestyle Farming โดยเปลี่ยนการเกษตรที่น่าเบื่อและไกลตัวในความคิดของหลายๆคน มาเป็นอะไรที่จับต้องได้ ให้ความสนุกสนาน และสร้างแรงบันดาลใจ  บนพื้นที่กว่า 104 ไร่ของ Coro Field บรรยากาศนี่เหมือนหลุดไปในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว อาคารกระจกใสสไตล์มินิมอลกับแปลงพืชผักสีเขียว มองไปทางไหนก็สดชื่นสบายตา ที่นี่เค้าไม่ได้แค่ปลูกผักสวยๆ ให้เราได้ชมเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ให้เราได้สนุกสนานและได้เข้าถึงการเกษตรแบบใกล้ชิด ตั้งแต่เริ่มเพาะพันธุ์ลงดินไปจนถึงการแปรรูปผลิตเป็นสินค้าหลากหลายชนิด ทั้งพักผ่อน ทั้งได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มเติมแบบนี้คุ้มค่าแน่นอน เวลาเปิดบริการ : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น. และ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 – 21.00

การเดินทาง
จากอำเภอเมืองราชบุรี ใช้เส้นทางหมายเลข 3208 ไปยัง อ.สวนผึ้ง ประมาณ 47 กิโลเมตร Coro Field ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ติดถนนราชบุรี – ผาปก


13103411_588084304682766_3501286441225655909_n-20160504.jpg
www.edtguide.com

6. “หัวหิน” 

        เสน่ห์แห่งความคลาสสิค หัวหิน ยังได้ชื่อว่าเป็น “เมืองของพ่อ” เพราะเป็นที่ตั้งของ พระราชวังไกลกังวัล ที่ประทับแปรพระราชฐานในฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมืองชายทะเล สุดคลาสสิคตั้งแต่รุ่นคุณปู่ เมืองน่ารักริมทะเลที่หลายๆ คนไปใช้ชีวิตพักผ่อนกันในวันหยุดเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ด้วยบรรยากาศริมทะเลทีเงียบสงบเย็นสบาย เหมาะที่จะพักผ่อนเพื่อเติมชีวิตที่ขาดหายไปในช่วงปีใหม่นี้ เดินทางไม่ไกล ของกินอร่อย สถานที่ท่องเที่ยวให้ถ่ายรูปกดชัตเตอร์รัวๆ ได้บรรยากาศความคลาสสิคก็มีเยอะ นี่คงเป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับคนไม่ชอบเดินทางไกลแต่อยากชิลในปีใหม่นี้เลยทีเดียว

การเดินทาง
ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2 หรือถนนธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม อำเภอปากท่อ แล้วแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี อำเภอท่ายาง อำเภอชะอำ จนถึงอำเภอหัวหิน


Screen-Shot-2014-06-03-at-9.40.27-PM.png
www.nolatoeverywhere.com


7. “สมุย” 

        ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง ชิลริมหาดทรายขาวบนเกาะ  หนึ่งในเกาะชื่อดังของเมืองไทยที่มีชื่อเสียงจากหาดทรายขาวสะอาด ธรรมชาติที่ยังคงบริสุทธิ์ ให้ความรู้สึกแบบ Tropical ให้คุณนอนเล่นสบายๆลืมเรื่องราวหยุดพักสมอง แล้วปล่อยใจไปกับบรรยากาศ แลนด์มาร์คของเกาะสมุย นั่นก็คือ “หินตา หินยาย”  หินรูปทรงประหลาดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินี้ บริเวณรอบๆ ยังมีร้านขายของที่ระลึกมากมายโดยเฉพาะ “กาละแม” ของขึ้นชื่อของที่นี่ ก็สามารถหาซื้อได้ตรงจุดนี้เช่นกัน  ถึงช่วงค่ำก็ได้เวลาออกไปเดินเล่นถนนคนเดิน “Fisherman’s Village” ที่เป็นแหล่งช็อปปิ้งที่มีสินค้ามากมายให้เลือกตลอดสองข้างทาง รวมไปถึงของกินแนว Street Food อีกหลากหลายที่รสชาติอร่อยราคาไม่แพง อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดๆ นั่นคือ Beach Party สุดมันส์ ที่จะรีสอร์ตต่างๆจะจัดทุกๆ วันอาทิตย์ ตั้งแต่เที่ยงวันถึง 4 โมงเย็น ใครอยากสัมผัสบรรยากาศแบบบีชคลับสไตล์ไมอามี่ พร้อมลองลิ้มชิมรสไลน์ซีฟู๊ดบุฟเฟต์สดๆ บอกเลยไม่ควรพลาด

การเดินทาง
เกาะสมุยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 740 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่เกาะสมุยได้หลายวิธี ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง และเครื่องบิน

เรือเฟอร์รี่

ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งในการเดินทางถึงเกาะสมุย โดยสามารถนำยานพาหนะขนาดเล็กลงเรือได้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีอาหารว่างให้บริการภายในเรือ ที่นั่งในห้องพักผู้โดยสารและมีเครื่องปรับอากาศด้วยเช่นกัน

มี 2 บริษัทที่ให้บริการเรือเฟอร์รี่ข้ามฝากไปยังเกาะสมุย (มีท่าเรือที่ท่าเรือดอนสักฝั่งสุราษฎร์ธานี)

บริษัทซีทรานเฟอร์รี่ ออกจากท่าเรือดอนสัก ไปยังท่าเรือหน้าทอนที่เกาะสมุย
บริษัทราชาเฟอร์รี่ ออกจากท่าเรือดอนสัก ไปยังท่าเรือราชาที่ลิปะน้อย
เครื่องบิน

* เที่ยวบินภายในประเทศ โดยบินตรงจากกรุงเทพ ไปยังเกาะสมุย
* เที่ยวบินภายในประเทศ โดยบินจากกรุงเทพไปยัง จังหวัดสุราษฏร์ธานี จากนั้นต่อรถบัสและเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะสมุย

เที่ยวบินตรงไปยังเกาะสมุย

อัตราค่าบริการจะแพงที่สุด แต่ก็ถือว่ารวดเร็วมาก เหมาะแก่ผู้ที่มีเวลาน้อยต้องการความรวดเร็วในการเดินทาง โดยเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) ไปยังเกาะสมุยนั้นมีดำเนินการอยู่ 2 สายการบินด้วยกันคือ บางกอกแอร์เวร์ และ การบินไทย

เที่ยวบินไปสุราษฎร์ธานี และการเดินทางต่อไปยังเกาะสมุย

หรือคุณสามารถจะเลือกบินไปสุราษฎร์ธานี (โดยการบินไทยหรือโอเรียนท์ไทย) จากสนามบินจะมีรถมินิบัส (รถตู้) บริการรับส่งถึงท่าเรือดอนสัก ซึ่งเป็น ท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ เพื่อจะเดินทางต่อไปยังเกาะสมุย


icon-23-2015-10-05-11-20-18.jpg
www.eculture.rbru.ac.th


8. จุดชมวิวเนินนางพญา “จันทบุรี” 

         ถนนเลียบชายทะเลที่สวยเหมือนเมืองนอก  อีกหนึ่งใน Dream destinations กาลครั้งหนึ่ง…ต้องไป ของประเทศไทย นั่นก็คือ จุดชมวิวเนินนางพญา ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต  เป็นถนนเลียบชายทะเล ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ตั้งแต่ชายทะเลด้านเหนือสุดไปยังชายทะเลด้านใต้สุดของจังหวัดจันทบุรี ถนนเลียบทะเลนี้ มีระยะทางยาวถึง 111 กิโลเมตรด้วยกัน แต่ที่คนนิยมมากก็คือ จากปากน้ำประแส จังหวัดระยอง ไปตามถนนเฉลิมบูรพาชลทิต และไปสิ้นสุดยังจุดชมวิวเนินนางพญา จันทบุรี ที่นี่ยังเป็นถนนแลนด์มาร์คของนักปั่นไป มีเส้นทางสำหรับรถจักรยานที่สร้างไว้อย่างดีเกือบตลอดเส้นทาง และตลอดเส้นทางจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายอีกด้วย เช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่าวคุ้งวิมาน และจุดชมวิวเนินนางพญา โดยตรงจุดชมวิว เนินนางพญา นี้ เป็นจุดไฮไลท์ของถนนเฉลิมบูรพาชลทิตเลยก็ว่าได้ เพราะตรงจุดนี้ จะมีทั้งนักท่องเที่ยวที่มาชมวิว และถ่ายรูปชิลๆ รวมไปถึงนักปั่นทั้งหลายที่จะมาปั่นจักรยานกัน แล้วก็ยังมีคู่รักที่มาคล้องกุญแจกันไว้ที่นี่อีกด้วย

การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ขับรถเข้า มอเตอร์เวย์ มุ่งตรงสู่ชลบุรี แยกเข้าถนน344 ทางไป อ.บ้านบึง ตรงไปยังอำเภอแกลง จ.ระยอง แล้วเขาถนนสุขุมวิท มุ่งตรงไปทางจันทบุรี เลี้ยวเข้าถนน339 ตรงไปยังอ่าวคุ้งวิมาน ขับเลยคุ้งวิมานมาประมาณ 1.5กิโลเมตรก็จะเจอเนินนางพญา (รวมระยะทางประมาณ 217 กิโลเมตร)


ทริปตรัง-เกาะไหง.jpg
www.ทริปตรัง.com


9. “ทะเลตรัง” 

       เที่ยวเกาะไหง ดำน้ำ ดูปะการัง สำหรับคนรักสายลม แสงแดด  ทรายที่ชายหาดขาวละเอียดเนียนนุ่มเท้า น้ำทะเลใส ชอบพักผ่อนแบบชิลๆ ในวันหยุดสบายๆ “เกาะไหง” หรือ “เกาะไห” เป็นอีกตัวเลือกที่ดี สำหรับเกาะไหง หรือ เกาะไห นี้เป็นเกาะที่ได้ชื่อว่า เกาะแห่งสองทะเลอันดามัน เนื่องจากตั้งอยู่กลางระะหว่างทะเลตรัง กับ ทะเลกระบี่ ที่นี่หาดทรายขาวเนียน น้ำทะเลใส ทำให้มองเห็นปลาหลายพันธุ์หลากสี แถมรอบเกาะปะการังยังสมบูรณ์อีกด้วย และด้วยความที่เป็นเกาะที่ยังมีนักท่องเที่ยวไม่มากเท่าไหร่ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก มากจนขนาดที่นี่กลายเป็นแหล่งของนกเงือก หอยมือเสือ กุ้งมังกร ปลาการ์ตูน ซึ่งมีอยู่รอบเกาะ นอกจากนี้ยังสามารถดำน้ำ 4 เกาะชมปะการัง ที่เกาะกระดาน เกาะเชือก เกาะม้า และไปเที่ยวถ้ำมรกต ได้ โดยการซื้อแพ็คเกจดำน้ำ 4 เกาะจากรีสอร์ตต่างๆบนเกาะนี้ ราคาจะประมาณ 750 ต่อคน ซึ่งจะมีทั้งน้ำ และอาหารกลางวันให้บริการเราอีกด้วย มาที่เดียวเที่ยว 4 เกาะ คุ้มไมหละ?

การเดินทาง
การเดินทางจากกรุงเทพฯไปจังหวัดตรัง

รถยนต์ : ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 4 กรุงเทพฯ-ชุมพร จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 41 ผ่าน สุราษฎร์ธานี-ทุ่งสง-ห้วยยอด-ตรัง ระยะทาง 828 กิโลเมตร

การเดินทางไปเกาะไหง

มีเรือโดยสารออกจากท่าเรือปากเมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง และมีเรือของเอกชนบริการให้เช่า เรือขนาด 10 คน ค่าเช่าเรือเหมาลำสำหรับเรือท่องเที่ยวขนาดผู้โดยสาร 20-40 คน ค่าเช่าเรือราคา 6,000 – 10,000 บาท สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางจากเกาะไหงไปบ้านศาลาด่าน (เกาะลันตา) จะมีเรือออกจากเกาะไหง เวลา 14.30 น. ถึงบ้านศาลาด่าน เวลา 15.30 น. ราคา 300 บาท

เกาะข้างเคียงอื่นๆ

สามารถเหมาเรือไปเที่ยวเกาะมุก ถ้ำมรกต (Unseen Thailand) ปะการังอ่อน กัลปังหา และฝูงปลาแสนสวย บริเวณ เกาะเชือก เกาะม้า เกาะเเหวน และหาดทรายขาวละเอียดที่เกาะกระดาน รวมทั้งมีเรือบริการวิ่งระหว่าง เกาะลันตา – เกาะจำ – กระบี่ และเรือบริการทุกวันจากเกาะลันตาใหญ่ไปเกาะไหง


1437551667-pantip01-o.jpg
pantip.com/topic/33954774

10. “บ้านแม่กำปอง” 

        ปล่อยให้เวลาเดินอย่างสโลว์ไลฟ์ บ้านแม่กำปอง หนึ่งในที่เที่ยวสุดสโลว์ไลฟ์ของจังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขา มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีลำธารไหลผ่านหมู่บ้าน และป่าไม้ที่สมบูรณ์ สภาพอากาศที่นี่จึงเย็นสบายตลอดปี บ้านแม่กำปอง หมู่บ้านเล็กๆนี้ ก่อตั้งมาแล้วประมาณ 100 กว่าปี หลายคนหลงใหลและเก็บกระเป๋าเดินทางมาใช้ชีวิตแบบเนิบช้าที่หมู่บ้านแห่งนี้กันนักต่อนัก การได้สัมผัสความงดงามแบบเรียบง่าย ปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างช้าๆ ก็ดูจะคุ้มค่าน่าดู ในเมื่อวันปกติเราทำอะไรแบบนี้ไม่ได้! ที่นี่มีโฮมสเตย์ มีความเงียบสงบ มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี มีเวลาที่เดินช้าสุดๆ มีความชิล มีน้ำตก มีจุดชมวิวสวยๆๆ สำหรับคนที่ชอบกาแฟ หรือเค้กที่นี่มีหลายร้านให้เลือกกินแบบจุใจ บ้านส่วนใหญ่จะติดกับลำธาร น้ำใสๆๆ ลงเล่นได้เลย บ้านเรือนจะแทรกตัวอย่างลงตัวกับธรรมชาติ หมู่บ้านมีการบริหารจัดการดีมากที่พักทั้งหมดจะเป็นโฮมสเตย์ ประมาณ 20 หลัง ขอบอกเลยว่าที่นี่ “เน้นบรรยากาศ” ว่าแล้วก็เตรียมเสื้อผ้ากับกล้องไปถ่ายรูปสวยๆสไตล์สโลว์ไลฟ์ปีใหม่นี้กันดีกว่า

การเดินทาง
บ้านแม่กำปองตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ จ.เชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่โดยผ่าน อ.สันกำแพง ระยะทาง 50 กิโลเมตร และห่างจากตัว อ.แม่ออน 20 กิโลเมตร และอีกเส้นทางหนึ่งผ่าน อ.ดอยสะเก็ด เลี้ยงขวาตรงสามแยกโป่งดิน ระยะทาง 51 กิโลเมตร ส่วนใหญ่เป็นถนนลาดยางและเทคอนกรีต สามารถ เดินทางได้สะดวกสบายทุกฤดู และสามารถใช้พาหนะรถได้ทุกชนิด




ที่มา : dealcha.com

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาที่ท่านอาจสนใจ เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น นโยบายคุกกี้และนโยบายความเป็นส่วนตัว